ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

เลือกโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี คำถามที่หลายคนอยากรู้

ปัจจุบันนี้ มี โปรเจคเตอร์ หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ทั้งมีแบรนด์ และไม่มีแบรนด์ แล้วจะเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี ล่ะ ???


บทความนี้จะช่วยคุณเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ เราจะตอบคำถามของคุณในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ที่จะตอบสนองความต้องการ

เรามารู้จักโปรเจคเตอร์แต่ล่ะ แบรนด์กัน ก่อน ที่จะ ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

โปรเจคเตอร์ ACER
  1. โปรเจคเตอร์ ACER แบรนด์นี้ มาจาก ไต้หวัน โดยใช้ เทคโนโลยี DLP และ DLP laser ในการแสดงภาพ มีหลายรุ่น หลายความละเอียดให้เลือก หลอดภาพในราคาไม่แพงมากในกรณี ที่ต้องการเปลี่ยนหลอด มีช่องเชื่อมต่อที่ หลากหลาย เมื่อเทียบกับ โปรเจคเตอร์ แบรนด์ อื่น ในรุ่น เดียวกัน โดยมีความละเอียดในรุ่นต่ำสุดตอนนี้เป็น ความละเอียด แบบ XGA (1024×768) pixel

จุดเด่น มีช่องเชื่อมต่อที่หลากหลาย, มีรับประกันศูนย์, มี onsite pick up ในบางรุ่น

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

2. โปรเจคเตอร์ BENQ แบรนด์นี้มาจาก ไต้หวัน โดยใช้เทคโนโลยี DLP และ DLP Laser ในการแสดงภาพ มีความละเอียด และ รุ่นให้เลือก เด่นในความละเอียด แบบ 4K และเรื่องระยะฉายภาพ ในรุ่นตลาด มีความละเอียด native เริ่มต้นที่ XGA (1024×768)

จุดเด่น ความละเอียด 4K ที่มียอดขายอันดับ1 ในไทย , มีศูนย์รับประกันเครื่อง

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

3. โปรเจคเตอร์ Epson แบรนด์ที่มาจาก ญี่ปุ่น เจ้าตลาดของเครื่องโปรเจคเตอร์ในไทย ใช้เทคโนโลยี LCD และ LCD Laser มีหลายรุ่นให้เลือก มีความสว่าง 3,000 ANSI จนไปถึง 20,000 ANSI, พร้อมฟังก์ชั่น Auto keystone หรือ ฟังก์ชั่นปรับมุม ในกรณีที่ เครื่องติดตั้งในบริเวณที่จำกัด มีหลายรุ่นให้เลือก และมีโปรเจคเตอร์ รุ่น interactive ultra short throw สามารถติดต้งที่กำแพงหรือผนังที่เรียบ และ ใช้ปากกาเขียนได้

จุดเด่น มีหลายฟังก์ชั่นให้เลือก , ความสว่างและสีที่สด, มี USB dongle สามารถรองรับการฉายภาพแบบไร้สาย, เครื่องรับประกันศูนย์

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

4. โปรเจคเตอร์ Panasonic แบรนด์ ญี่ปุ่น อีกค่าย ที่ทำตลาดในไทยมานานแล้ว ใช้เทคโนโลยี DLP และ DLP Laser มีหลายรุ่นให้เลือก พร้อม ความสว่าง ที่สูง มีฟังก์ชั่น ปรับภาพ ต่าง ๆ หลากหลายให้เลือก ความสว่างสูง ๆ ต้องยกให้แบรนด์นี้ครับ

จุดเด่น มีฟังก์ชั่นให้เลือกเล่นตามเทคโนโลยีของญี่ปุ่น , ทนทาน, มีประกันศูนย์

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี-5

5. โปรเจคเตอร์ sony แบรนด์ ญี่ปุ่น อีกค่าย ใช้เทคโนโลยี LCD และ LCD laser โดยภาพและสีสัน สมจริง มีความคมชัดสูง ราคา แบบ LCD laser ค่อนข้างดีกว่าทุกแบรนด์ มีฟังก์ชั่นในการปรับภาพ หลากหลาย ปรับสี่เหลี่ยมคางหมู และ ปรับมุมภาพได้ในรุ่นที่ ความสว่างสูง ๆ

จุดเด่น มีศูนย์บริการในไทย, ความสว่างและแสงสวยสมจริง, มีฟังก์ชั่นและช่องเชื่อมต่อ ที่ครบครัน

ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี-6

6. โปรเจคเตอร์ vivitek แบรนด์ อเมริกา มีโรงงานผลิตเป็นของตนเอง โดยผลิตให้กับแบรนด์ใหญ่ ๆ หลายแบรนด์ ใช้เทคโนโลยีแบบ DLP และ DLP Laser สีสรร สวยสมจริง และ มีฟังก์ชั่นและ ช่องเชื่อมต่อ ที่ครบครัน เด่นในเรื่องของ เครืองแบบ DLP laser และ เครื่องโปรเจคเตอร์ฉายระยะใกล้

จุดเด่น มีบริการรับเครื่องถึงที่ในกรณี เครื่องเสีย , มีแสงและสีสันที่สมจริง , ราคาหลอดภาพและ เครื่องสมเหตุสมผล

เมื่อเรารู้ถึง คุณลักษณะของเครื่องโปรเจคเตอร์แบบคร่าว แล้ว ต่อไปเรามาดู เงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม

สำรวจงบประมาณในกระเป๋า ในการ ซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

การตั้งงบประมาณ ในการ ซื้อโปรเจคเตอร์ เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะถ้าคุณมี งบประมาณ 1,000-5,000 บาท (แต่อยากได้โปรเจคเตอร์มาใช้) ผมแนะนำว่า ควรจะซื้อโปรเจคเตอร์แบบไม่ต้องมีแบรนด์ ส่วนเรื่องของความสว่าง หรือ คุณภาพ คุณก็จะต้องยอมรับกับราคาที่จ่ายให้ได้ด้วยนะครับ โดยทั่วไป จากที่ผมเคยขาย ความสว่างของโปรเจคเตอร์แบบไม่มีแบรนด์ จะค่อนข้าง เกินความจริงจากที่โฆษณาเอาไว้จากโรงงานผู้ผลิต และต้องยอมรับได้ว่าถ้าเครื่องเสีย หรือ หลอดเสื่อม คุณจะหาอะไหล่ ได้ยาก

ในกรณีที่คุณมี งบประมาณ 10,000 บาท ขึ้นไป ผมขอแนะนำให้ซื้อแบบมีแบรนด์ เพราะมีศูนย์บริการ อะไหล่หาง่าย เครื่องเสียก็สามารถเครมได้ทันที

ดูขนาดของห้อง และ ขนาดจอที่ใช้งานกับโปรเจคเตอร์

ขนาดของห้องนั้น และ จอนั้นจะทำให้เรารู้ว่า เราควรจะเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่างเท่าไหร่ และระยะฉายเท่าไหร่ นั่นเองครับ ห้องไม่ใหญ่มาก ความสว่างของโปรเจคเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมีความสว่างสูง แต่ในการกลับกัน ถ้าห้องใหญ่มากก็ควรที่จะเลือกโปรเจคเตอร์ ที่มีความสว่างสูงขึ้น เป็นต้น

จอโปรเจคเตอร์ไฟฟ้า 200 นิ้ว

ขนาดของจอโปรเจคเตอร์ ก็มีส่วนในการเลือกโปรเจคเตอร์เช่นกัน เพราะจอที่เรา ใช้รับแสงจากโปรเจคเตอร์นั้น มีอัตราส่วนเท่าไหร่ 4:3, 16:9, 16:10 เส้นทะแยงมุมจอเท่าไหร่ เช่น ใช้กับ จอโปรเจคเตอร์ 70 นิ้ว 90 นิ้ว 100 นิ้ว เป็นต้น

เมื่อเรารู้ขนาดห้องและจอ แล้วเราก็สามารถ นำมาเทียบกับ สเป็คของเครื่องโปรเจคเตอร์ได้ เช่น ห้องเรามีขนาด กว้าง 4 เมตร สูง 3 เมตร ยาว 4 เมตร (ถือว่าห้องไม่ใหญ่มาก) ก็สามารถใช้โปรเจคเตอร์ ที่มีความสว่าง 3000 ANSILUMENS ขึ้นไปได้ จอโปรเจคเตอร์ที่ห้องเราใช้มีขนาดเส้นทะแยงมุม 90 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 เท่านี้ เราก็สามารถที่จะเลือกและกำหนดสเป็คเครื่องโปรเจคเตอร์ของเราได้แล้วครับ ว่าควรมีความสว่างไม่น้อยกว่า 3000 ANSILUMENS อัตราส่วนปกติที่โปรเจคเตอร์ฉายภาพออกไปเป็นแบบ 16:10 เป็นต้น

สำรวจเครื่องส่งสัญญาณภาพของคุณ ว่าเป็นสัญญาณภาพแบบไหน

ถ้าเครื่องส่งสัญญาณภาพของคุณมีช่องส่งสัญญาณ แบบ composite ก็ควรเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีช่องรับสัญญาณภาพดังกล่าวด้วย หรือ เครื่องส่งสัญญาณภาพของคุณมีช่องส่งสัญญาณแบบ HDMI หรือ VGA ก็ควรที่จะเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีช่องรับสัญญาณดังกล่าว เป็นต้น

VIVITEK-DH4661Z-IO_Port

สำรวจว่าเครื่องสามารถติดตั้งบนเพดานได้หรือไม่

ส่วนใหญ่เครื่องโปรเจคเตอร์ในท้องตลาดนั้นจะสามารถติดตั้งแบบแขวนเพดานได้อยู่แล้ว ข้อนี้จึงไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่ถามทางผู้ขายก่อนก็จะดีเพื่อเป็นการยืนยันถึงรุ่นที่ต้องการว่า สามารถติดตั้งแบบแขวนเพดานได้หรือไม่ โดยเครื่องโปรเจคเตอร์นั้นต้องมีฟังก์ชั่น ceiling position หรือฟังก์ชั่นภาพกลับหัวนั่นเอง

projector install

น้ำหนักเครื่องโปรเจคเตอร์

หากท่านต้องใช้งานเครื่องโปรเจคเตอร์แบบไม่ประจำที่ มีการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ น้ำหนักเครื่องก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง แต่ก็ต้องคำนึงถึง ความสว่างด้วย เนื่องจากว่า เครื่องที่มีน้ำหนักเบา ๆ ไม่ถึง 1 กิโลกรัมนั้น ความสว่างมักจะน้อยตามน้ำหนักเครื่อง ซึ่งหากท่านต้องใช้งานเครื่องในสถานที่ที่มีแสงสว่าง สูง ด้วย และต้องเคลื่อนย้ายบ่อยด้วย ทางเราแนะนำว่านำ้หนักเครื่องสัก 2-3 กิโลกรัม ความสว่าง 3000 ANSILUMENS ขึ้นไปก็คงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ และ ยังตอบโจทย์เรื่องแสงสว่างได้ดีอีกด้วย

projector light weight

ความสว่างของเครื่องโปรเจคเตอร์

ความสว่างของแสงที่เครื่องโปรเจคเตอร์ฉายได้ นั้นสำคัญมาก เพราะหากเครื่องที่ท่านใช้งาน ใช้แล้วแสงสว่างไม่พอกับห้อง หรือ สถานที่ที่ต้องการ ก็จะทำให้ภาพที่ออกไม่มีความคมชัด และเห็นไม่ชัดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันนี้ แสงสว่างขั้นต่ำควรจะเริ่มต้นที่ 3000 ANSILUMENS ขึ้นไป สำหรับห้องเรียน หรือ ห้องประชุม และ 2000 ANSILUMENS ขึ้นไป สำหรับห้องนั่งเล่นหรือดูหนัง

projector light for room

เทคโนโลยีโปรเจคเตอร์

ในอดีตที่ผ่านมาเครื่องโปรเจคเตอร์จะใช้หลอดภาพในการแสดงภาพออกมาเช่น เทคโนโลยีแบบ DLP และ เทคโนโลยีแบบ LCD หรือ เทคโนโลยีแบบ LCOS ซึ่งทำให้ภาพและอายุการใช้งานได้ประมาณ 6,000 – 12,000 ชั่วโมง ก็ต้องเปลี่ยนหลอดภาพแล้ว และหลังจากเปลี่ยนหลอดภาพแล้วภาพก็ยังมีคุณภาพที่ลดลงไปอีก 10% ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนหลอดภาพ

ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีของเครื่องโปรเจคเตอร์ก็มีความสำคัญมากเพราะ ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีการฉายภาพโดยไม่ต้องใช้หลอดภาพเข้ามาแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ท่านสามารถใช้งานเครื่องได้ยาวนานขึ้น โดยอาจจะเพิ่มเงินเข้าไปอีกหน่อยแต่ได้เครื่องที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 20,000-30,000 ชั่วโมง เช่น เครื่องฉายภาพโปรเจคเตอร์เทคโนโลยี LASER

เทคโนโลยี เลเซอร์ โปรเจคเตอร์ (Laser projector)

ระยะฉายภาพ

ระยะฉายภาพของเครื่องโปรเจคเตอร์ก็มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อ เนื่องจากว่า หากห้องที่ท่านใช้งานมีระยะการฉายที่จำกัด เช่น ท่านต้องการติดตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์แต่เครื่องที่ท่านซื้อมานั้น ดันมีระยะฉายภาพที่ตรงกับ หลอดไฟพอดี เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเลือกเครื่องที่ระยะฉายภาพก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เช่นนั้นท่านซื้อเครื่องแล้ว ท่านอาจจะต้องจ้างช่างฝ้า หรือ ช่างไฟ มาทำการรื้อ หรือ ย้ายตำแหน่งของหลอดไฟ

สรุป

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ยี่ห้อไหนดี

  1. ต้องเลือกซื้อที่มีศูนย์บริการอยู่ภายในประเทศไทย เพราะหากเครื่องเสีย ก็มีอะไหล่
  2. ควรเลือกซื้อเครื่องให้เหมาะกับความต้องการใช้งาน
  3. ควรคำนึงถึงขนาดจอโปรเจคเตอร์ (อัตราส่วนภาพ) และ ห้องที่จะใช้งาน และ ตำแหน่งติดตั้ง
  4. ควรคำนึงถึง ช่องเชื่อมต่อ ของเครื่องที่จะใช้ส่งสัญญาณภาพ
  5. ความสว่าง และ น้ำหนัก ของเครื่อง ควรจะเลือกยี่ห้อที่เหมาะสม
  6. เทคโนโลยีของเครื่อง
  7. ระยะฉายภาพ
  8. งบประมาณที่ตั้งไว้

ต้องการปรึกษางานระบบภาพและเสียง

เบอร์โทร ออล เอ็ดดูแคร์
line ID and barcode