฿14,900.00 Original price was: ฿14,900.00.฿9,900.00Current price is: ฿9,900.00.
฿39,900.00 Original price was: ฿39,900.00.฿29,000.00Current price is: ฿29,000.00.
฿29,000.00 Original price was: ฿29,000.00.฿24,000.00Current price is: ฿24,000.00.
฿42,900.00 Original price was: ฿42,900.00.฿39,900.00Current price is: ฿39,900.00.
฿27,900.00 Original price was: ฿27,900.00.฿25,900.00Current price is: ฿25,900.00.
฿30,000.00 Original price was: ฿30,000.00.฿27,900.00Current price is: ฿27,900.00.
฿21,000.00 Original price was: ฿21,000.00.฿19,000.00Current price is: ฿19,000.00.
฿33,900.00 Original price was: ฿33,900.00.฿31,900.00Current price is: ฿31,900.00.
฿19,000.00 Original price was: ฿19,000.00.฿18,500.00Current price is: ฿18,500.00.
฿7,900.00 Original price was: ฿7,900.00.฿6,900.00Current price is: ฿6,900.00.
฿19,900.00 Original price was: ฿19,900.00.฿18,900.00Current price is: ฿18,900.00.
฿13,500.00 Original price was: ฿13,500.00.฿11,500.00Current price is: ฿11,500.00.
฿9,900.00 Original price was: ฿9,900.00.฿7,500.00Current price is: ฿7,500.00.
เทคโนโลยี่และการทำงานของเครื่อง
เครื่องฉายภาพ 3 มิติ (visualizer) คือ เครืองทำหน้าที่ฉายวัตถุที่ต้องการ ออกไปแสดงยัง โปรเจคเตอร์ หรือ ทีวี หรือ จอโปรเจคเตอร์ ซึ่งเหมาะสำหรับ การเรียนการสอน การประชุม หรือ โรงพยาบาล เพื่อนำเสนอ กระดาษที่เขียน หรือ สื่อการเรียนการสอนที่ต้องการ ให้ผู้เรียน ได้เห็นทีเดียว ทั่วทั้งห้อง เป็นต้น
ใข้งานเกี่ยวกับการ นำเสนอ ผลงานให้ลูกค้า เช่น เพชร พลอย ที่ต้องการความละเอียดสูง ซึ่ง เครื่องฉายภาพสามมิติ Visualizer สามารถที่จะ ย่อ ขยาย ภาพ เข้าออกได้ โดยสามารถเห็นรายะเอียดภายในได้อย่างชัดเจน และยังสามารถ แบ่งหน้าจอ แสดงภาพ ออกได้ เป็น 2 ฝั่ง ในกรณีที่ต้องการที่จะเปรียบเทียบวัตถุ หรือ ผลงาน ที่ต้องการแสดง
ข้อมูลเพิ่มเติม
เทคโนโลยี
การออกแบบและข้อมูลจำเพาะของ เครื่องฉายภาพ 3 มิติ เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีต่างๆ คุณภาพของภาพที่บันทึกขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลัก ได้แก่ เลนส์ กล้อง ระบบไฟส่องสว่าง และ main board ที่มีเฟิร์มแวร์ (ซอฟต์แวร์) ที่เหมาะสม ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปจะเกิดขึ้นจากการผลิตการออกแบบ ที่แตกต่างกัน โดยผู้ผลิตแต่ละราย ทุกวันนี้ เครื่องฉายภาพสามมิติ มีกล้องที่มี ความละเอียดสูงพร้อมเอาต์พุต HDMI สามารถบันทึกและเล่นเสียง/วิดีโอได้ และเครื่องฉายภาพสามมิติ ความละเอียดสูงบางรุ่นยังใช้เทคโนโลยี WIFI ความเร็วสูงเพื่อขจัดความจำเป็นในการใช้สายเคเบิล เพื่อเชื่อมต่อได้
ส่วนประกอบ
เลนส์
เลนส์ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของภาพ สามารถใช้ระบบออพติคอลที่เรียบง่ายหรือซับซ้อนสูง ซึ่งสามารถแตกต่างกันอย่างมากทั้งในด้านคุณภาพ และขนาดของ รูรับแสงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของเลนส์ รูรับแสงใช้สำหรับควบคุมปริมาณแสงที่ผ่านเลนส์ไปยังเซ็นเซอร์ภาพ เลนส์จะโฟกัสที่จุดเดียวของวัตถุที่จะถ่ายภาพบนเซ็นเซอร์ อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลังจุดโฟกัสที่จะถูกมองว่าอยู่ในโฟกัสที่คมชัดด้วยสายตามนุษย์ นี่เรียกว่าระยะชัดลึก และขึ้นอยู่กับขนาดของม่านตาหรือรูรับแสง (ยิ่งรูรับแสงเล็กลง ความชัดลึกยิ่งมากขึ้น)
กล้อง
เราคงอ่านเจอบ่อยๆ ในคุณลักษณะของเครื่องฉายภาพสามมิติ ในส่วนของ กล้องสแกนแบบโปรเกรสซีฟใช้เซ็นเซอร์ CCD หรือเซ็นเซอร์ CMOS ข้อได้เปรียบทั่วไปของการสแกนแบบโปรเกรสซีฟ ที่เหนือกว่า แบบอินเทอร์เลซ คือผลลัพธ์ที่ได้จะมีความละเอียดสูงกว่ามาก กล้องสแกนแบบโปรเกรสซีฟจะบันทึกเส้นการสแกนทั้งหมดพร้อมกัน ในขณะที่กล้องแบบอินเทอร์เลซจะใช้ชุดเส้นสลับกัน
โดยทั่วไป เซนเซอร์ภาพจะให้เฉพาะภาพขาวดำเท่านั้น ด้วยกล้อง 1 ชิป ข้อมูลสีสามารถรับได้อย่างง่ายดายผ่านการใช้ฟิลเตอร์สีในแต่ละพิกเซล สำหรับกล้องแบบ 1 ชิป ฟิลเตอร์ ฟิลเตอร์สีแดง เขียว และน้ำเงินจัดเรียงลำดับการทำงาน จำนวนพิกเซลสีเขียวมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของจำนวนพิกเซลสีน้ำเงินและสีแดง ดังนั้นจึงจำลองความไวและความละเอียดของดวงตามนุษย์ให้สูงขึ้น เพื่อให้ได้ภาพสี จะใช้อัลกอริธึมต่างๆ เพื่อสอดแทรกข้อมูลสีที่หายไป
โมดูลกล้อง 3CCD เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างภาพสี โดยใช้ปริซึมเพื่อแยกแสงสีขาวออกเป็นส่วนประกอบสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน จากนั้นจึงใช้เซ็นเซอร์แยกกันสำหรับแต่ละสี เทคโนโลยีกล้องที่ซับซ้อนนี้ใช้ในกล้อง 3 ชิป ซึ่งทำให้เป็นการสร้างสีที่ยอดเยี่ยมที่ความละเอียดสูงมาก
ระบบกล้องสมัยใหม่ที่ใช้ในกล้องเอกสารสามารถให้ภาพสีความละเอียดสูงที่ 30 เฟรมต่อวินาที ในกล้อง 3 ชิป ความละเอียดที่วัดได้อาจสูงถึง 1500 เส้น นอกจากนี้ ภาพยังสามารถปรับให้พอดีกับอัตราส่วนการแสดงผลทั่วไปที่ 4:3, 16:9 และ 16:10
ระบบไฟส่องสว่าง
การจัดแสงเป็นส่วนสำคัญของเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าได้การแสดงสีที่ดี ระบบไฟส่องสว่างที่ใช้ส่องสว่างบริเวณที่จับภาพควรมีความสม่ำเสมอมากที่สุด ยิ่งความเข้มของแสงมากเท่าใด กล้องหรือเลนส์ ที่ใช้ก็จะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น การใช้ระบบไฟส่องสว่างอันทรงพลังทำให้สามารถใช้รูรับแสงที่เล็กลงได้ ซึ่งจะทำให้ระยะชัดลึกเพิ่มขึ้นอย่างมากซึ่งกล้องเอกสารสามารถทำได้ ยิ่งแหล่งกำเนิดแสงมีคุณภาพสูงเท่าใด แสงก็จะยิ่งไปถึงเซ็นเซอร์ของกล้องมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้มีสัญญาณรบกวนน้อยลง ดังนั้นคุณภาพของภาพจึงไม่ลดลง
เมนบอร์ดและเฟิร์มแวร์
Main board มีบทบาทสำคัญในการประมวลผลภาพและมีอิทธิพลอย่างมากต่อคุณภาพของภาพที่เกิดขึ้นในที่สุด ความละเอียดที่ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้นและอัตราการรีเฟรชที่สูงจะสร้างข้อมูลจำนวนมากที่ต้องประมวลผลแบบเรียลไทม์
กล้องถ่ายเอกสารมีระบบอัตโนมัติที่ซับซ้อนหลากหลายซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ง่ายที่สุด ตัวอย่างเช่น การตรวจจับโฟกัสอัตโนมัติแบบถาวรจะปรับการตั้งค่าโฟกัสโดยอัตโนมัติเมื่อมีวัตถุใหม่ปรากฏขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้เข้าไปยุ่ง คุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ รูรับแสงอัตโนมัติ ค่าแสงอัตโนมัติ สมดุลแสงขาวอัตโนมัติ (white balance) และการควบคุมอัตราขยายอัตโนมัติ (Auto fucus)
เครื่องฉายภาพ 3 มิติ ต้องใช้อุปกรณ์แสดงภาพเพื่อแสดงข้อมูลต่อผู้ชม main board สมัยใหม่มีการเชื่อมต่อที่หลากหลายเพื่อให้มั่นใจถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน นอกจากช่องเชื่อมต่อ HDMI, DVI, VGA สำหรับการเชื่อมต่อกับจอภาพ (โปรเจ็กเตอร์ จอภาพ และระบบการประชุมทางวิดีโอ) ยังมีอินเทอร์เฟซหลายแบบที่จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือกระดานอัจฉริยะ อินเทอร์เฟซเหล่านี้มักเป็น USB, เครือข่าย (LAN) และ Serial port
นอกจากนี้ พีซีหรือแล็ปท็อปภายนอกสามารถเชื่อมต่อกับ เครื่องฉายภาพสามมิติ เพื่อให้สามารถสลับภาพ ระหว่างการนำเสนอ Power Point และการแสดงภาพแบบ real time ได้ บางรุ่นยังสามารถจัดการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกและเล่นไฟล์ได้โดยตรงจากแฟลชไดรฟ์ USB หรือบันทึกภาพที่ถ่ายระหว่างการนำเสนอลงในนั้น
ผู้ผลิต เครื่องฉายภาพ บางรายยังจัดให้มีการอัปเกรดเฟิร์มแวร์เป็นประจำ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีโอกาสได้รับการติดตั้ง และได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ๆ เมื่อมีให้ใช้งาน
ประเภทของเครื่องฉายภาพ
สามารถแบ่งออกเป็น รุ่นน้ำหนักเบาที่เล็กกว่าถือเป็นแบบพกพา หน่วยที่ใหญ่กว่าและมีเสถียรภาพมากขึ้นเรียกว่ารุ่นเดสก์ท็อป
รุ่นพกพา ส่วนใหญ่จะเป็นแบบคล้ายกับ งวงช้าง สามารถงอเก็บได้ และมีน้ำหนักเบา
รุ่นตั้งโต๊ะ ก็จะเป็นแบบฐาน มีไฟส่องสว่างที่แขน พร้อม กล้อง มีปุ่มเมนูคำสั่ง สำหรับ สั่งงานต่าง ๆ ได้ทันที
การเชื่อมต่อ
สามารถเชื่อมต่อได้ผ่านทางสายสัญญาณ และ แบบไร้สาย โดยความละเอียดที่สามารถส่งออกไปแสดงที่หน้าจอได้ในปัจจุบัน อยู่ที่ความละเอียดของเครื่องแต่ล่ะยี่ห้อ และ แต่ล่ะรุ่น ซึ่ง สามารถทำได้ถึง 4K ที่ 60 Framerate แล้ว ในอนาคต อาจจะสามารถส่งได้ถึง 8K หรือ 16K เลยทีเดียว